Home » ‘จุรินทร์’ ลั่นระฆังAPEC!!!เตรียมนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุม รมต.เศรษฐกิจAPEC 21 เขตเศรษฐกิจ 4 วันรวด ตั้งเป้าฟื้นเศรษฐกิจโลกหลังโควิด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียม ความพร้อมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค 2022 (APEC Ministers Responsible for Trade Meeting 2022) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องรับรอง ชั้น 11 สานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่ามีคนเข้าใจว่า การประชุมเอเปคที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจะเริ่มต้นในปลายปีนี้ ประมาณเดือนพฤศจิกายน แต่ข้อเท็จจริงแล้ว การประชุม
เอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพนั้นจะมีการประชุมสาคัญ 2 ส่วน คือ 1. การประชุมสุดยอดผู้นำ หรือ เอเปค ซัมมิท ซึ่งจะมีการประชุมระดับนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำประเทศ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้หรือปลายปีนี้ และ 2. การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้าของเอเปค ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ของไทยจะเป็นประธานในการประชุม โดยมีเขตเศรษฐกิจการค้าที่จะเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 21 เขต เศรษฐกิจ และจะมีการเริ่มประชุมตั้งแต่วันที่ 19-22 พฤษภาคม ต่อเนื่องกัน 4 วัน จะมีทั้งกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
กับรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้า ภาคเอกชน และระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส
สำหรับเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนเอเปคจากกรอบความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้าของกลุ่ม เศรษฐกิจเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ และมีเป้าหมายขับเคลื่อนให้เอเปคพัฒนาไปเป็น FTA ต่อไปในอนาคต โดยตั้งเป้าหมาย ว่าจะทำให้สำเร็จในปี 2040 ซึ่งถ้าทำสำเร็จ FTA-APEC จะกลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันสูง ที่สุดในโลกต่อไป คือ เป้าหมายที่ประเทศไทยตอนที่เราเป็นเจ้าภาพและเป็นประธานในที่ประชุมมีความประสงค์จะ ขับเคลื่อนเรื่องนี้ นอกจากนั้น จะมีการขับเคลื่อนการใช้โมเดลทางเศรษฐกิจที่ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติของประเทศไทย คือ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) ในการขับเคลื่อน SMEs โดยเฉพาะ Micro SMEs ให้กลายเป็น ฐานรากสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยและกลุ่มประเทศเอเปคต่อไปอย่างยั่งยืน เพราะเป็นโมเดล ที่จะทำให้ภาคการผลิตตั้งแต่เศรษฐกิจฐานราก Micro SMEs เดินหน้าไปสู่การผลิตทั้งสินค้าและบริการที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นไปตามการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติต่อไป
นอกจากนั้นในการประชุม 4 วัน ตั้งแต่ 19 -22 พฤษภาคมนี้ จะถือโอกาสหารือในรูปแบบทวิภาคีกับทั้งสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย รวมทั้งแคนาดา ญี่ปุ่น และจีนฮ่องกงต่อไปด้วย และจะแถลงผลให้ทราบต่อไป เพราะ การประชุมเอเปคครั้งนี้ ทั้งรัฐมนตรีสหรัฐฯ รัสเซีย ญี่ปุ่นและหลายประเทศมาอย่างพร้อมเพรียง
“ถ้ามีการจัดตั้ง เป็น FTA-APEC จะมีประชากรทั้งหมด 2,900 ล้านคน (เป็น38% ของประชากรโลก) GDP รวม 52 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,768 ล้านล้านบาท (62% ของ GDP โลก) ถ้าทำได้สำเร็จในปี 2040 อย่างน้อย มูลค่าการค้าระหว่างกลุ่มประเทศเอเปคจะเพิ่มขึ้น 200-400% โดยประมาณ โดยประเทศจีนก็เข้าร่วมและเป็น ประเทศเดียวที่เข้าร่วมผ่านระบบซูม เนื่องจากเคร่งคัดเรื่องโควิด แต่ประเทศที่เหลือเดินทางมาประชุมด้วยตนเองทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ” รมว. พาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ เอเปคหรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วย สมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน จีนฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
18 พฤษภาคม 2565